วันอาทิตย์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2555

" คุณครูสาว " ผู้เป็นแรงบันดาลใจให้เด็กอเมริกัน


          คุณครูสาวท่านนี้ชื่อว่า แมรี่ แกนน่อน เธอเป็นคุณครูประจำอยู่ที่โรงเรียนฮาร์ดิง
มิดเดิล สคูล ในรัฐโอไฮโอของสหรัฐฯ ซึ่งสอนเด็กนักเรียนเกรด 6-8 (ชั้น ป.6-ม.2)
          แกนน่อน เป็นคนพิการแขนทั้งสองข้างแต่กำเนิด เธอเติบโตขึ้นในสถานสงเคราะห์เด็กกำพร้า ประเทศเม็กซิโก
จนถึงอายุ 7 ขวบ จึงได้รับการอุปการะโดยครอบครัวจากรัฐโอไฮโอ และพยายามฝึกฝนการใช้เท้าทำอะไรแทนมือจน
เชี่ยวชาญ ก่อนจะได้เข้าทำงานเป็นครูผู้ช่วยที่โรงเรียนฮาร์ดิงเมื่อปีที่แล้ว และปัจจุบันก็ได้กลายเป็นคุณครูอย่างเต็มตัว
โดยสอนวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์
          แม้จะไม่มีอวัยวะครบ 32 เหมือนเช่นคุณครูท่านอื่น ๆ โดยเฉพาะแขนสองข้างที่กุดหายไป แต่นั่นก็ไม่ได้เป็น
อุปสรรคต่อการทำหน้าที่ครูเลยแม้แต่น้อย เธอใช้เท้าแทนมือในการเขียนกระดาน พิมพ์คอมพิวเตอร์ หรือแม้แต่แจก
เอกสารประกอบการเรียนให้เด็ก ๆ
          ที่สำคัญการสอนของเธอไม่ได้ทำให้เหล่าลูกศิษย์ได้รับแต่เพียงตัวความรู้เท่านั้น พวกเขายังได้เรียนรู้บทเรียน
ชีวิตที่ดี โดยมีคุณครูแกนน่อนเป็นตัวอย่างชั้นเยี่ยม ซึ่งเด็ก ๆ ทั้งมองเห็นและสัมผัสได้อย่างขัดเจนว่า ไม่ว่าจะมีอุปสรรคใดๆ
หากมีความพยายามและตั้งใจจริงแล้ว คนเราย่อมทำมันให้สำเร็จลุล่วงได้แน่นอน
          "พอเห็นครูแล้วมันทำให้ผมรู้ว่า เราสามารถทำทุกสิ่งที่เราอยากทำได้ ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็ตาม" ลูกศิษย์เกรด 8
ของเธอ กล่าว
          ส่วนทางด้านคุณครูแกนน่อนก็กล่าวว่า ความจริงเธอไม่ชอบเลยกับการที่ถูกเรียกว่า "คนพิการ" เพราะมันให้ความรู้สึก
แบ่งแยก แต่ถ้ามันจะช่วยให้คนอื่น ๆ ได้รับแรงบันดาลใจจากเธอ หรือทำให้พวกเขาปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตของตัวเองให้ดีขึ้น
เธอก็รู้สึกโอเค
          "ตอนนี้ฉันกำลังทำในสิ่งที่ฉันอยากทำ และมันเป็นสิ่งที่ฉันรัก ถ้าคุณเองกำลังตั้งความมุ่งมั่นไว้ว่าอยากจะทำให้สิ่งที่
ตัวเองรักเหมือนกัน ถ้าอย่างนั้นก็ลงมือเลย ไม่มีใครหรืออะไรสามารถหยุดคุณได้หรอก"
          ขณะที่ทางด้านคุณครูคนอื่น ๆ ในเรียนก็มองครูสาวคนนี้ด้วยความชื่นชมไม่แพ้กัน พวกเขารู้ดีว่าเธอเป็นแรงบันดาลใจ
ที่ดีให้กับเด็กนักเรียนทุกคนในโรงเรียน โดยคุณครูคนหนึ่งบอกว่า ทุกคนที่ได้พบแกนน่อนรู้สึกไม่ต่างกันว่า "ถ้าเธอทำได้ ฉันมั่นใจ
เลยว่าตัวฉันเองก็ต้องทำอย่างนั้นได้เหมือนกัน"
                           

เฟซบุ๊กรุกอีคอมเมิร์ซส่งของขวัญจริงๆได้

[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] เฟซบุ๊ก (Facebook) เริ่มขยับตัวแล้ว ล่าสุดทางบริษัทได้เพิ่มบริการใหม่ที่มีชื่อว่า Gifts ซึ่งก็จะมีการทำงานตามชื่อเรียกของมัน กล่าวคือ บริการดังกล่าวจะเปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถสั่งซื้อ และจัดส่งของขวัญจริงๆ อย่างช็อคโกแลต กาแฟ ตุ๊กตาหมี ถุงเท้า และอื่นๆ อีกมากมายไปให้กับเพื่อนของคุณในวันเกิด หรือวันสำคัญต่างๆ ได้ 

สำหรับ เฟซบุ๊กกิฟต์ (Facebook Gifts) ได้เปิดให้บริการตั้งแต่วันพฤหัสที่ผ่านมา โดยจะเริ่มเปิดให้กับผู้ใช้บางส่วนในสหรัฐฯ ก่อน และจะค่อยๆ เปิดให้กับประเทศต่างๆ ในเดือนต่อไป หากเริ่มมีการใช้บริการส่งของขวัญจากผู้ใช้กันอย่างจริงจัง ซึ่งบริการ Facebook Gifts จะให้ผู้ใช้สามารถคลิกบนไอคอน gifts ที่อยู่ในหน้าเพจของเพื่อนบนเฟซบุ๊กได้จากในเว็บไซต์ หรือแอพฯ บนแอนดรอยด์โฟน ส่วนเวอร์ชันไอโฟน และไอแพดกำลังจะตามมาในเร็วๆ นี้ ทั้งนี้ไอคอน gifts จะแสดงขึ้นทางด้านขวาของหน้าเพจของผู้ใช้ โดยจะมาพร้อมกับการแจ้งเตือนวันเกิด หรือวันครบรอบแต่งงาน ฯลฯ ตัวอย่างการทำงานของบริการนี้ สมมติว่า กำลังจะถึงวันเกิดเพื่อนของคุณในอีก 2 วันข้างหน้า คุณจะพบเห็นลิงค์ "give her a gift" และไอคอน gift จะแสดงผลขึ้นมาถัดจากชื่อ และรูปภาพของเธอ และเมื่อคลิกบนไอคอน มันก็จะแสดงภาพรายการของขวัญที่คุณสามารถซื้อได้ อย่างเช่น บัตรของขวัญสตาร์บั๊ค คัพเค้ก หรือเจ้าหมีเท็ดดี้ เป็นต้น ทางด้านเพื่อนของคุณที่เป็นผู้รับจะได้รับการแจ้งเตือยผ่านเฟซบุ๊ก เพื่อให้เข้าไปใส่ที่อยู่ที่จะรับของขวัญ ซึ่งของขวัญบางอย่าง ยังเปิดโอกาสให้ผู้รับเลือกได้ด้วยเช่น หน้าคัพเค้กที่ชืนชอบ หรือขนาด และสไตล์ของถุงเท้า หรือแม้กระทั่งการขอเปลี่ยนของขวัญเป็นอย่างอื่น หากผู้รับไม่ชอบช็อคโกแลต หรือถุงเท้า แต่อยากได้เป็นหมีแทน ก็สามารถทำได้ 

การเคลื่อนไหวในครั้งนี้ของเฟซบุ๊กส่อให้เห็นทิศทางว่า บริษัทกำลังเข้าสู่การทำอีคอมเมิร์ซ โดยจะมีการคิดค่าบริการจากส่วนแบ่งกำไรของผู้ค้าที่นำสินค้าเข้ามาให้บริการใน Facebook Gifts ซึ่งทางบริษทจะเพิ่มสินค้าที่หลากหลายขึ่นไปอีก โดยมีความเป็นไปได้ตั้งแต่ไอศครีมกูเม่ต์ ภาพพิมพ์ Andy Warho ดอกไม้ ของเล่นสำหรับสุนัข ไปจนถึงแพคเกจสปา การให้บริการ Facebook Gifts เป็นผลลัพธ์มาจากการที่ทางบริษัทได้เข้าซื้อกิจการที่ชื่อว่า Karma บริษัทใหม่ที่มีพนักงานแค่ 16 คนในซานฟรานซิสโก โดยเฟซบุ๊กซื้อบริษัทนี้เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมา แอพฯ บนโมบายของ Karma ยังเปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถส่งของขวัญให้เพื่อนๆ ได้ในระหว่างเดินทาง ซึ่งนั่นหมายความว่า Facebook Gifts จะสามารถใช้งานได้ทังบนคอมพิวเตอร์ และโมบาย หลังจากที่เข้่าซื้อกิจการแล้ว ลี ลินเดน หัวหอกของ Karma ตอนนี้ได้กลายเป็นหัวหน้าฝ่ายผู้จัดการผลิตภัณฑ์ของ Facebook Gifts ไปเรียบร้อยแล้ว "เราคิดว่า การให้ของขวัญ คือรูปแบบของการสื่อสารอย่างหนึ่ง" เขากล่าว 


สื่อนอกตีข่าว จราจรไทยทำลายสถิติ ทำคลอดมากที่สุดในโลก


เว็บไซต์เทเลกราฟ สำนักข่าวชื่อดังของอังกฤษรายงานว่า ด.ต.มานะ จอกโคกสูง วัย 43 ปี กลายเป็นตำรวจจราจรที่ทำคลอดทารกมากที่สุดในโลก หลังช่วยทำคลอดทารกรายที่ 47 บนท้องถนนของกรุงเทพฯ

รายงานระบุว่าการจราจรในกรุงเทพฯเลวร้ายมาก ว่ากันว่าท้องถนนสามารถรับมือกับรถได้แค่ราวๆ 1.6 ล้านคน แต่ข้อมูลบ่งชี้ว่ามีการจดทะเบียนรถยนต์ มากกว่าที่สามารถรองรับได้กว่า 4 เท่า ด้วยเหตุนี้เอง ด.ต.มานะ และเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ จึงต้องเข้ารับฝึกฝนการทำคลอด เพื่อคอยช่วยเหลือผู้หญิงท้องที่เกิดเจ็บครรภ์ขึ้นมา แต่ไม่สามารถไปถึงโรงพยาบาลได้ในชั่วโมงเร่งด่วน

ด.ต.มานะ กล่าวว่าครั้งแรกที่ผมทำคลอด ตัวผมสั่นไปหมด ทั้งตื่นเต้นและทั้งกลัว อย่างไรก็ตามในครั้งล่าสุดที่ช่วยทำคลอดคุณแม่ยังสาววัย 19 ปี บนรถแท็กซี่  ด.ต.มานะ มานะบอกว่ารู้สึกปลาบปลิ้มใจอย่างมากที่ได้ช่วยเหลือผู้คน

เรื่องราวของผลิตภัณฑ์สมุนไพร วิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านวัดจันทร์พัฒนา




            ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและผิวพรรณเป็นสิ่งสำคัญมากในชีวิตประจำวันของคนทุกเพศทุกวัย จึงมีผลิตภัณฑ์หลากหลายยี่ห้อวางขายตามท้องตลาดทั่วไป แต่ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ล้วนเต็มไปด้วยส่วนผสมที่เป็นสารเคมี ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ที่มีเส้นผมและผิวพรรณที่แพ้ง่าย ดังนั้น ทางวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านวัดจันทร์พัฒนา จึงได้มีความคิดที่จะนำเอาสมุนไพรพื้นบ้านที่มีอยู่ในชุมชนมาผสมผสานกับภูมิปัญญาไทย  โดยนำมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและผิวพรรณ ได้แก่ แชมพูและครีมนวดประคำดีควาย แชมพูและครีมนวดดอกอัญชัน   แชมพูและครีมนวดมะกรูดผสมกับว่านหางจระเข้    น้ำมันบำรุงเส้นผม
 “ ตะวันแฮร์โค๊ท ” สบู่เหลวจากมะขาม และสบู่เหลวจากขมิ้นชัน  การนำส่วนผสมต่างๆ มาผสมกันอย่างสอดคล้องทำให้เกิดผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพทั้งเส้นผมและผิวกายที่มีคุณภาพ ไม่ระคายเคืองต่อหนังศีรษะและผิว ทำให้ผมนุ่มสลวยและมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ผิวพรรณชุมชื่นอย่างเป็นธรรมชาติ ยังเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับสมุนไพรไทย ก่อให้เกิดรายได้กับชาวบ้านในชุมชน  กลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านวัดจันทร์พัฒนาได้รับการสนับสนุนจาก คณะเภสัชศาสตร์และคลินิกเทคโนโลยีมหาวิทยาลัยนเรศวร ในการตั้งสูตรตำรับเครื่องสำอางผสมสมุนไพรและการพัฒนาการผลิตที่มีคุณภาพ  การคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ให้กับชุมชน  และยังมีหน่วยงานราชการต่างๆ ให้การสนับสนุนการพัฒนาด้านบรรจุภัณฑ์และด้านการตลาดอย่างสม่ำเสมอ



สาวบราซิลประมูลเปิดบริสุทธิ์บนเครื่องบิน หาเงินสร้างบ้านให้คนจน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า (29 ก.ย.) คาตารินา มิกลิโอรินี นักศึกษาสาขาวิชาพละศึกษา ชาวบราซิลเชื้อสายอิตาลี วัย 20 ปี เปิดประมูลความบริสุทธิ์ของตัวเอง เพื่อหาเงินค่าก่อสร้างบ้านหลังใหม่ทันสมัยกว่าเดิมให้กับชุมชนแออัดของกลุ่มคนยากจน ในพื้นที่บ้านเกิดของที่รัฐซานตา คาตารินา ทางตอนใต้ของประเทศ

โดยเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เธอได้เซ็นสัญญาเข้าร่วมกับทีมนักทำภาพยนตร์เชิงสารคดีชาวออสเตรเลีย ที่ตามหาบุคคลบริสุทธิ์เพื่อร่วมถ่ายทำภาพยนตร์เชิงสารคดี เรื่อง "Virgins Wanted" ที่จะบันทึกเรื่องราวผ่านความรู้สึกของเธอ ทั้งก่อนและหลังมีประสบการณ์เซ็กซ์ครั้งแรก ซึ่งเธอจะได้รับเงินจำนวน 20,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 600,000 บาท) และอีก 90 เปอร์เซ็นต์ จากราคาประมูลครั้งสุดท้ายที่สูงที่สุด ซึ่งจะสิ้นสุดลงในวันที่ 15 ต.ค. นี้ ส่วนราคาตั้งต้นที่ 155,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 4,650,000 บาท)

ทั้งนี้ ผู้ที่ชนะการประมูลนั้นจะได้ความบริสุทธิ์ของคาตารินา บนเที่ยวบินจากออสเตรเลียไปสหรัฐฯ แต่ต้องสวมถุงยางอนามัยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และป้องกันการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์

แปลก!โจ๋ยุ่นฮิตฉีดน้ำเกลือเข้าหน้าผาก



26 ก.ย.55 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า วัยรุ่นญี่ปุ่นกำลังมีแนวโน้มนิยมความงามที่แปลกประหลาดมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยล่าสุด ถึงขั้นฉีดน้ำเกลือเข้าหน้าผาก เพื่อให้บวมเหมือนขนมปังเบเกิล ที่มีรอยบุ๋มตรงกลางคล้ายโดนัท ที่พวกเขามองว่า เป็นความงามรูปแบบหนึ่ง

ทั้งนี้ สารคดีซีรี่ส์ทางโทรทัศน์ชุด " ทาบู " (Taboo) ที่ออกอากาศทางช่องเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก ได้เสนอตอนล่าสุด ที่แสดงให้เห็นว่า มีวัยรุ่น 3 คน นั่งให้ฉีดน้ำเกลือเข้าที่หน้าผาก เพื่อให้บวมเหมือนเบเกิล อาหารเช้ายอดนิยม ซึ่งกลายเป็นเทรนด์ใหม่ในญี่ปุ่น ที่เรียกว่า " เบเกิล เฮ้ด "

ภาพที่ถูกเผยแพร่ ได้แสดงให้เห็นว่า มีผู้ชายที่ใช้ชื่อว่า อาซามิ ฉีดน้ำเกลือเข้าที่หน้าผากของวัยรุ่น 3 คน จนบวมได้ที่ ก่อนที่คนทำจะใช้หัวแม่มือกดตรงกลางก้อนเนื้อที่บวมจนเกิดรอยบุ๋ม ซึ่งความเปลี่ยนแปลงของรูปหน้าที่เกิดจากการฉีดน้ำเกลือ ที่ใช้เวลา 2 ชั่วโมงนั้น จะมีระยะเวลาประมาณ 16-24 ชั่วโมง ก่อนที่ใบหน้าบริเวณหน้าผากจะกลับคืนสู่ปกติ เนื่องจากน้ำเกลือจะถูกร่างกายดูดซึมไปหมด

รายงานยังระบุว่า วัยรุ่นทั้ง 3 คน ที่เข้ารับการฉีดน้ำเกลือที่หน้าผาก ภายในสถานที่ถ่ายทำรายการในกรุงโตเกียวเป็นชาย 2 คน และหญิง 1 คน คือ จอห์น , สกอร์เปี้ยน และมาริน ต่างนั่งอยู่ในสภาพที่มีเข็มขนาดใหญ่แทงเข้าหน้าผาก เพื่อเดินน้ำเกลือ ซึ่งหลังจากถอนเข็มออกจากหน้าผากแล้ว เนื้อใต้หน้าผากบริเวณที่ถูกฉีดได้บวมขึ้นเรื่อย ๆ

จอห์น ซึ่งเป็นชาวต่างชาติ และเป็นหนึ่งในคนที่ถูกฉีดน้ำเกลือ ได้บอกถึงความรู้สึกว่า เหมือนมีของเหลวกำลังไหลออกมาจากใบหน้าของเขา และยังถามคนที่อยู่ในห้องว่า มีอะไรไหลออกมาจากศีรษะของเขาหรือไม่ ซึ่งน้ำเกลือที่ฉีดเข้าสู่หน้าผากของแต่ละคน มีปริมาณ 400 ซีซี

ผู้ที่ริเริ่มเทรนด์หน้าผากขนมปัง คือ เรียวอิจิ " เคโระ " มาเอดะ ช่างภาพและผู้สื่อข่าวที่คลั่งไคล้การทำสารคดีแนวอันเดอร์กราวด์ เกี่ยวกับเทรนด์การโมดิฟายร่างกายของพวกวัยรุ่น เขาให้สัมภาษณ์นิตยสารฉบับหนึ่งที่เวนิซ เมื่้อปีที่แล้วว่า เขาพบเทรนด์นี้ ที่โตรอนโต ประเทศแคนาดาในงานที่มีชื่อว่า " มอดคอน " ซึ่งเป็นการรวมตัวของพวกที่โมดิฟายร่างกายกันแบบสุด ๆ เมื่อปี 2552 และเขาได้พบกับเจอโรม ที่เป็นผู้บุกเบิกการฉีดน้ำเกลือเข้าร่างกาย ที่ทำให้ผิดรูปผิดร่างหรือแปลกประหลาด ก่อนจะนำเทรนด์นี้เข้าไปในญี่ปุ่น และตั้งทีมงานเพื่อฉีดน้ำเกลือให้วัยรุ่นมาตั้งแต่ปี 2550

นอกจากนี้ ยังมีการจัดงานปาร์ตี้น้ำเกลือ ปีละ 2 ครั้ง เพื่อให้พวก " เบเกิล เฮ้ด." ไปร่วมสังสรรค์กันซึ่งการฉีดน้ำเกลือ จะฉีดเข้าส่วนไหนของร่างกายก็ได้ มีบางคนใจถึงสุดขีด ถึงฉีดเข้าที่อัณฑะด้วย

วันอังคารที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2555

วิธีดูแลรักษารองเท้าของคุณผู้หญิง


1. เมื่อกลับถึงบ้านแล้ว สิ่งที่ควรทำโดยด่วยคือ ให้ใช้น้ำที่สะอาดล้างทำความสะอาดรองเท้าของคุณผู้หญิงให้ทั่วภายนอก จากนั้นค่อยเช็ดให้แห้งด้วยผ้าสะอาด แล้วนำตากในที่ล่ม มีลมโปร่ง ไม่อับ ให้แห้ง

2. สำหรับชิ้นส่วนของพื้นรองเท้าที่อยู่ด้านใน ถ้าถอดมาทำความสะอาดได้ ให้นำไปล้างและทำความสะอาดซะนะคะ แล้วนำตากในที่ล่ม มีลมโปร่ง ไม่อับ ให้แห้งเช่นเดียวกัน

3. ไม่ควรใส่รองเท้าขณะที่ยังเปียก หรือชื้นอยู่ เพราะจะทำให้เกิดปัญหารองเท้ามีกลิ่นเหม็นอับได้ และ จะทำให้รองเท้าคู่สุดรักของคุณผู้หญิงเสียทรง หนังยืด ได้ด้วยค่ะ

4. การตากรองเท้าควรวางรองเท้าของคุณผู้หญิงให้ตั้งเอียงขึ้นประมาณสัก 45 องศาจากพื้น ให้น้ำที่ขังด้านในจากการล้างทำความสะอาดนัั้นไหลออกมา

5. เมื่อรองเท้าแห้งให้นำไปเช็ดและถ้าหากเป็นรองเท้าหนังให้ขัดหนังรองเท้าคู่เก่งของคุณผู้หญิงให้เงาวับ แล้วนำไปวางไว้ที่แดดส่องถึงประมาณสัก 2 ชั่วโมงค่ะ เพื่อเป็นการรักษาหนังของรองเท้าคู่เก่งของคุณผู้หญิง

"8 บัญญัติการดูแลเส้นผม"


1. เริ่มจากการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผม ต้องมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีค่าความเป็นด่างที่สมดุล เช่น ครีมนวดผมต้องมีคุณสมบัติปรับสภาพเส้นผมให้ชุ่มชื่นและล้างออกได้ง่าย

2. เวลาสระผมจะต้องนวดหนังศีรษะไปพร้อมกัน เพราะจะช่วยให้เกิดการหมุนเวียนโลหิตที่หนังศีรษะดีขึ้น ให้น้ำมันตามธรรมชาติไปหล่อเลี้ยงเส้นผม หรืออาจนวดระหว่างวันด้วยหวีแปรงไม้

3. เมื่อผมเปียกชื้นอาจเป็นปัญหาหนึ่งที่สาวๆ อย่างเราต้องกังวล เพราะเวลาผมแห้งก็จะฟู ฉะนั้นอาจพกไดร์เป่าผมตัวจิ๋วไว้ในกระเป๋าหรือที่ทำงานสักอัน นอกจากจะได้ผมสลวยแล้ว เป็นอีกทางหนึ่งช่วยลดความเสี่ยงที่จะเป็นหวัดได้เป็นอย่างดี

4. เวลาเป่าผมให้แห้ง ควรเป่าผมจากบนลงล่าง เพราะเกล็ดผมจะเรียงตัวตามธรรมชาติ ทำให้เส้นผมเรียงตัวสวยและเรียบเงางาม ไม่ชี้ฟู

5. สาวใดที่นิยมไดร์ผมให้ตรง ดัดผมด้วยโรลไฟฟ้า และรีดผมด้วยไฟฟ้า ต้องระวังเรื่องไฟดูดและควรใช้ผลิตภัณฑ์ปกป้องเส้นผมจากความร้อนด้วยเสมอ

6. ถ้าจำเป็นต้องหวีผมขณะที่เปียก ควรใช้หวีซี่ห่างๆ จะช่วยให้เส้นผมขาดน้อยลงได้

7. การกินอาหารที่ดีมีประโยชน์ช่วยให้เส้นผมมีสุขภาพที่ดีด้วยเช่นกัน ควรเลือกอาหารจำพวก ผัก ผลไม้ และควรดื่มน้ำให้มาก หลีกเลี่ยงอาหารที่ผ่านกระบวนการขัดสี รวมทั้งพยายามงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่ ก็จะเรียกได้ว่าเป็นการบำรุงให้ผิวและผมสวยใสจากภายในสู่ภายนอกนั่นเอง

8. ถ้าต้องทำกิจกรรมกลางแจ้ง ควรปกป้องเส้นผมจากแสงแดดด้วยการสวมหมวก หรือทาครีมปรับสภาพผมทิ้งไว้เมื่อต้องออกแดด จากนั้นค่อยล้างออกตามปกติ

วิธีการดูแลรักษาเสื้อยืด


วิธีการดูแลรักษาเสื้อยืดให้อยู่กับเรานานๆ

1. ให้แยกซักระหว่างผ้าขาวกับผ้าสี แนะนำให้ซักมือจะดีกว่า

2. ผงซักฟอกให้เลือกที่ไม่รุนแรง และ ถนอมใยผ้า

3. ไม่ควรตากโดยใช้ไม้แขวนเสื้อ ให้กลับด้านแล้วพาดเสื้อกับที่ราวตากผ้า

4. เมื่อเสื้อแห้งถ้าไม่จำเป็นไม่ควรใช้ไม้แขวนเสื้อ ควรพับเก็บจะดีที่สุด

 *หมายเหตุ ควรระวังข้อ3 กับ ข้อ4 เพราะเป็นตัวสำคัญที่จะทำให้เสื้อของคุณเสียทรงเร็ว และคอเสื้อยืดง่ายครับ