วันศุกร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ก้อนหินแปลกๆ รูปทรงกลมๆ บนดาวอังคาร



นักวิทยาศาสตร์เห็นภาพก้อนหินแปลกๆ รูปทรงกลมๆ บนดาวอังคารจากยานโรเวอร์รุ่นเก๋าของนาซา แต่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าคืออะไร

ภาพใหม่จากยานออพพอร์จูนิตี (Opportunity) ยานสำรวจเคลื่อนที่ (rover) ขององค์การบริหารการบินอวกาศสหรัฐฯ (นาซา) เผยภาพชั้นหินที่โผล่ออกมามีรูปทรงกลมแปลกๆ เหมือนตุ่มปูดพองที่เบียดกันแน่น ซึ่งสเปซดอตคอม ระบุว่า นักวิทยาศาสตร์ในภารกิจยังไม่สามารถอธิบายได้ว่าคืออะไร

เมื่อเห็นครั้งแรกทีมนักวิทยาศาสตร์คิดว่าเป็น “ก้อนบลูเบอรีดาวอังคาร” (Martian blueberries) ก้อนกลมๆ ที่อุดมด้วยธาตุเหล็ก ซึ่งออพพอร์จูนิตีบันทึกภาพได้เป็นครั้งแรกเมื่อปี 2004 แต่ชั้นหินที่เรียกว่า “เคิร์กวูด” (Kirkwood) ก็มีลักษณะสำคัญหลายอย่างที่ต่างออกไป

สตีฟ สไควเรส (Steve Squyres ) ผู้ติดตามหลักในภารกิจสำรวจของยานโรเวอร์จากมหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ (Cornell University) นิวยอร์ก สหรัฐฯ กล่าวว่าภาพก้อนหินกลมๆ นี้เป็นหนึ่งในภาพไม่ธรรมดาที่สุดของภารกิจยานออพพอร์จูนิตี ซึ่งในจำนวนนั้นมี “บลูเบอรีดาวอังคาร” แต่กรณีของชั้นหินล่าสุดนี้มีลักษณะที่แตกต่าง เพราะพวกเขาไม่เคยเห็นก้อนกลมเล็กๆ ที่รวมตัวกันแน่นในชั้นหินดาวอังคารที่โผล่ออกมาเช่นนี้

ตอนนี้ยานออพพอร์จูนิตีกำลังสำรวจบริเวณที่เรียกว่าเคปยอร์ก (Cape York) ทางขอบตะวันตกของหลุมอุกกาบาตขนาดใหญ่บนดาวอังคารที่ชื่อ “เอนเดฟเวอร์” (Endeavour) ซึ่งชั้นหินเคิร์กวูดเป็นเพียงหนึ่งจุดสำรวจในบริเวณเคปยอร์กของยาน ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ยังสำรวจชั้นหินอื่นๆ ที่อยู่ข้างเคียง ซึ่งอาจจะมีแร่ธาตุที่น่าสนใจอยู่ และจะทำการศึกษาหลังยานเสร็จสิ้นการวิเคราะห์ในภารกิจปัจจุบัน

นักวิทยาศาสตร์ในภารกิจ กล่าวอีกว่า ยานออพพอร์จูนิตีได้สำรวจพบบลูเบอรีดาวอังคารอยู่หลายครั้งในพื้นที่สำรวจหลายแห่งบนดาวอังคาร แต่รูปทรงปูดโปนเป็นทรงกลมอย่างที่เห็นในชั้นหินเคิร์กวูดนี้เพิ่งพบเป็นครั้งแรก และในภาพล่าสุดที่ส่งมานี้รูปทรงแปลกๆ หลายอันก็แตกหักเผยให้ทรงกลมในใจกลางที่แปลกประหลาดอยู่ภายใน

สไคเรส กล่าวว่า รูปทรงกลมนั้นดูเหมือนจะกรอบนอก และนุ่มในใจกลาง และต่างมีความหนาแน่นที่แตกต่างกัน มีโครงสร้างแตกต่างกัน มีองค์ประกอบแตกต่างกัน และกระจายตัวต่างกัน ซึ่งนับเป็นปริศนาทางธรณีวิทยาอันน่าอัศจรรย์ที่พวกเขามี โดยเขาและทีมมีทฤษฎีอธิบายเรื่องนี้อย่างหลากหลาย แต่ยังไม่มีทฤษฎีไหนที่ดีที่สุดที่จะอธิบายได้ว่าอะไรทำให้เกิดโครงสร้างประหลาดนี้บนดาวอังคาร ซึ่งคงต้องใช้เวลาสักระยะเพื่อหาคำตอบเรื่องนี้ แต่สิ่งที่ทำได้ตอนนี้คือเปิดใจและปล่อยให้ก้อนกินนั้นเผยเรื่องราวของตัวเองออกมา

สำหรับงานออพพอร์จูนิตีนั้น เป็นยานสำรวจเคลื่อนที่ขนาดรถกอล์ฟที่ลงจอดบนพื้นผิวดาวอังคารเมื่อเดือน ม.ค.2004 ส่วนยานขนาดเดียวกันอีกลำคือยานสปิริต (Spirit) ที่ลงสำรวจในพื้นต่างกัน โดยยานสำรวจพลังแสงอาทิตย์ทั้งสองได้รับการคาดหวังว่าจะปฏิบัติหน้าที่บนดาวอังคารเพียง 90 วัน แต่ก็สามารถอยู่รอดมาได้หลายปี จนกระทั่งเมื่อต้นปี 2010 ยานสปริตก็หยุดสื่อสารกับศูนย์ควบคุมบนโลก แต่ยานออพพอร์จูนิตียังคงทำงานต่อไป

วันพุธที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2555

กว่าจะเป็นอินเตอร์เน็ต

dialup


กว่าจะเป็นอินเตอร์เน็ต

  “อดีตบอกเล่าอนาคต”วันนี้เรามาคุยถึงอินเตอร์เน็ตที่เราๆท่านๆ  ใช้กันอยู่ทุกวันนี้เริ่มขึ้นมา  ได้อย่างไรหลายคนอาจเกิดคำถามขึ้นว่าจะต้องรู้ไปทำไม “ใช้งานได้เป็นพอ” ใจเย็นครับครับใจเย็น  เขาว่ากันว่าจะรู้อะไรก็รู้ให้ถึงกึ๋นเลยจะทำให้เรากระจ่างในสิ่งที่เกิดขึ้นในลำดับต่อมาภายหลังครับ

     ก่อนที่จะมีการใช้งานอินเตอร์เน็ตอย่างแพร่หลายในทุกวันนี้  เครือข่ายสื่อสารส่วนใหญ่ยังถูกจำกัดอยุ่เพียงการใช้งานกันภายใน  โดยผ่านคอมพิวเตอร์ศูนย์กลางที่มีมันสมอง หรือระบบประมวลผลขนาดใหญ่เท่านั้น  ทำให้เป็นสิ่งท้าทายในเวลานั้นสำหรับสำหรับนักวิจัยทั้งในมหาลัยชั้นนำและหน่วยงานวิจัยของภาครัฐในสหรัฐอเมริกา  ต่างคิดค้นวิธีการเชื่อมต่อเครือข่ายต่างๆ  ที่อยู่ห่างไกลกันให้เป็นหนึ่งเดียว

     เครือข่ายที่เชื่อมโยงกันในระยะแรกเกิดขึ้นภายในกลุ่มที่มีความสนใจในเรื่องเดียวกัน  ถ้าสังเกตดูแล้วจะพบว่า  บริการในโลกดิจิตอลต่างยำเอากฎธรรมชาติของพฤติกรรมมนุษย์นี้มาใช้จนประสบความสำเร็จกันทั้งนั้น  แต่สำหรับยุตแรกๆ  นั้นยังมีจุดเชื่อมต่อถึงกันเพียงไม่กี่จุด  และแล้วก็เป็นจุดเริ่มต้นของอินเตอร์เน็ตโปรตอลคอล  หรือไอพี (Internet  Protocol : IP)  ซึ่งเปรียบเสมือนกฎกติกาข้อตกลงการรับส่งข้อมูล  การวางเครือข่าย  เพื่อให้ง่ายต่อการขยายและเชื่อมต่อกัน

     ถ้าว่าไปแล้ว “เจ้าไอพี” เปรียบได้ใกล้เคียงกับการพัฒนาระบบคมนาคม  เราเริ่มจากถนนหนทางเพื่ออำนวยความสะอวกในการรับส่งสินค้าหรือการเดินทางไปมาหาสู่กัน  ถ้าสนใจกันเฉพาะในเมืองเล็กๆ  เท่านั้น  ก็อาจจะไม่จำเป็นต้องสนใจว่าพื้นที่อื่นเขาจะจัดการจราจรกันอย่างไร  แต่เมื่อต้องการจะติดต่อกับเมืองอื่นๆก็ต้องเคารพกฎกติกาของเมืองอื่นด้วย  ยิ่งถ้าต้องการเชื่อมต่อไปยังประเทศอื่นๆ  ผ่านสายการบินแล้ว  ก็จำเป็นต้องมีข้อตกลงระเบียบข้อปฏิบัติ  ไม่งั้นคงสับสนวุ่นวายกัน  จนการจัดการจราจรจะกลายเป็นจราจรเช่นเดียวกับการเชื่อมต่อเครือข่ายคอมพิวเตอร์ก็ต้องมีโปรโตคอลเพื่อจัดระเบียบนั่นเอง

    การเชื่อมต่อกันระหว่างเครือข่ายคอมพิวเตอร์ได้สู่ความคิดที่จะครอบคลุมเครือข่ายให้ถึงกันทั่วโลกได้ขยายสู้ความคิดที่จะครอบคลุมเครือข่ายให้ถึงกันทั่วโลกโดยเรียกขานกันว่า “อินเตอร์เน็ต”  ซึ่งมีการใช้งานอย่างเป็นอย่างทางการกันนับตั้งแต่ปี  พ.ศ. 2525 เริ่มจากซีกโลกตะวันตกแล้วเข้ามาสู้พื้นที่อื่นๆ  ในเวลาต่อมานั้นเอง

วันอังคารที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2555

เกร็ดความรู้เสริมสร้างรอยหยักในสมอง มันอาจจะมีประโยชน์บ้างอะไรบ้าง (สาระล้วนๆ)


1. พลังงานไฟฟ้า มาจากการเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอน
2. องค์ประกอบของโลกส่วนใหญ่เป็นสารประกอบพวกซิลิกอนไดออกไซด์
3. การดื่มน้ำกระด้าง จะทำให้เป็นโรคนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ
4. ถ้านำเพชรมาเผาไฟจะได้ก๊าซคาร์บอร์ไดออกไซด์ เพราะเพชรเป็นอันยรูปของถ่าน
5. แกรไฟท์ สามารถนำมาใช้เป็นตัวนำไฟฟ้า สารหล่อลื่น ไส้ดินสอ และใช้เป็นตัวยับยั้งปฏิกิริยานิวเคลียร์ในปฏิกรณ์ปรมาณู
6. สเตทโธสโคป คือ เครื่องฟังเสียงการทำงานของหัวใจและปอด
7. คาวมเร็วเสียงในดินจะมีความเร็วกว่าความเร็วเสียงในอากาศประมาณ 15 เท่า
8. น้ำลาย จะเป็นตัวหล่อลื่น และทำให้อาหารรวมตัวกันเป็นก้อนเรียกว่า โบลัส
9. กระบวนพื้นฐานของการเกิดแสงในสิ่งมีชีวิตมีส่วนมาจากโปรตีนชนิดเดียวกันที่ชื่อว่า "เอนไซม์ลูซิเฟอเรส"
10. เมื่อหินหนืดเย็นตัวลงจะตกผนึกได้เป็นหินอัคนี
11. ทรงยี่สิบหน้าปลายตัด เป็นต้นแบบของการผลิตลูกฟุตบอลในปัจจุบัน
12. เปลือกหอยนางรมสามารถใช้ทำปูนขาวเพื่อไปใช้ในการก่อสร้าง การเกษตรกรรม และอุตสาหกรรม
13. การใช้ไฟฟ้าในที่พักอาศัย มีส่วนทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจกถึง 16%
14.สมองของคนเราหนักประมาณ 3% ของน้ำหนักร่างกาย แต่ใช้เลือดไปหล่อเลี้ยงถึง 15% ของเลือดทั้งหมด
15. ปรากฎการณ์โลกร้อน คือ ปรากฏการณ์ที่อุณหภูมิเฉลี่ยของผิวโลกและผืนมหาสมุทรสูงขึ้น
16. น้ำแข็งในดาวหางส่วนมากประกอบด้วยก๊าซมีเทน แอมโมเนีย คาร์บอนไดออกไซด์และน้ำ
17. ความเร็วลมผิวพื้นและชั้นบนมีหน่วยเป็น "นอต"
18. ความกดดันของบรรยากาศมีหน่วยเป็น"มิลลิบาร์"
19. ช็อกโกแลตสามารถดูดกลิ่นได้
20. สารที่จำเป็นต่อการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงคือ ไขมัน โปรตีน และธาตุเหล็ก
21. หอเอนเมืองปิซาเอนไปทางใต้
22. ในน้ำทะเล 100 ตัน จะมีทองคำอยู่ประมาณ 4 กรัม
23. เส้นผมคนเรารับน้ำหนักได้ 3 กิโลกรัม
24. จิงโจเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดเดียวที่เดินถอยหลังไม่ได้
25. ผีเสื้อบินด้วยความเร็ว 20 ไมล์ต่อชั่วโมง ส่วนยุงบินด้วยความเร็ว 5 ไมล์ต่อชั่วโมง
26. หัวใจมนุษย์สร้างความดันเพียงพอที่จะปั๊มเลือดออกจากร่างกายไป 30 ฟุต
27. กล้ามเนื้อที่แข็งแรงที่สุดในร่างกายคือลิ้น
28. จุดแดงใหญ่บนดาวพฤหัสบดี เป็นพายุที่เกิดมานานกว่าสามร้อยปีแล้ว
29. เราสามารถเดินม้าหมากรุกให้ผ่านทุกช่องบนกระดานหมากรุกโดยไม่ซ้ำกันและกลับมายังช่องแรกได้ถึง 26,534,728,821,064 วิธี
30. ไรซิน เป็นสารพิษจากพืชที่รุนแรงที่สุด มีฤทธิ์ร้ายแรงกว่างูเห่า 2 เท่าสกัดได้จากเมล็ดละหุ่ง สามารถใช้ในการรักษามะเร็งได้
31. โรนัน เป็นปลากระดูกอ่อนชนิดหนึ่งมีหางเหมือนปลาฉลามและหัวเหมือนปลากระเบน
32. แปรงสีฟันถูกประดิษฐ์ขึ้นโดย วินเลียม แอดดิส ขณะที่เขาถูกจองจำอยู่ในคุก
33. สารอนินทรีย์ได้จากการสลายตัวของหินและแร่
34. ฮิวมัส เป็นสารอินทรีย์ที่ได้จากการสลายตัวของสิ่งมีชีวิตที่เน่าเปื่อยผุพังสลายตัวทับถมอยู่ในดิน
35. ปีที่ร้อนที่สุดในรอบปีคือปีพ.ศ. 2543
36. หน่วยของเวลาตามระบบหน่วยเอสไอนั้นกำหนดให้เป็น วินาที
37. แนวคิดเรื่องไทม์แมชชีนเริ่มปรากฏเป็นครั้งแรกจากนวนิยายแนววิทยาศาสตร์เรื่อง "ไทม์แมชชีน" ของ เอช. จี. เวลล์
38. เปลือกโลกภาคพื้นทวีปจะประกอบด้วยชั้นไซอัลและไซมา ทำให้มีความหนามากกว่าเปลือกโลกส่วนที่อยู่ใต้มหาสมุทร ซึ่งประกอบด้วยชั้นไซมาเท่านั้น
39. แก่นโลก เป็นส่วนชั้นในสุดของโลกที่มีความหนาแน่นมากมีรัศมียาวประมาณ 3,486กิโลเมตรประกอบด้วยโลหะผสมระหว่างเหล็กและนิกเกิล
40. แก่นโลกชั้นนอก มีความหนาแน่นมากกว่าหินทั่วไปถึง 5 เท่าและมีความร้อนสูงถึง4,000 องศาเชลเซลเซียส