วันจันทร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2555
วิศวกรโยธาฯ เครียด
วิศวกรโยธาฯ เครียด อุ้มลูกสาววัย 3 ขวบ ขวางถ.พระราม1 ร้องทุกข์ถูกตำรวจกลั่นแกล้ง ด้าน "พงศพัศ" ได้ลงมารับเรื่องและเจรจาด้วย พร้อมให้ นำเอกสารและสำนวนคดีไปยื่นต่อ พล.ต.ต.ปิยะ ซึ่งได้ประสานทางโทรศัพท์ไว้ให้แล้ว
นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ อายุ 45 ปี วิศวกรโยธา จ.สมุทรปราการ พร้อมด้วยภรรยาและบุตรสาววัย 3 ขวบ เดินทางเข้าร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยขอเข้าพบ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร.เพื่อยื่นหนังสือร้องทุกข์โดยอ้างว่า ตนเองไม่ได้รับความเป็นธรรมและถูกตำรวจกลั่นแกล้งและยัดเยียดข้อหาและสั่งฟ้องคดีโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทั้งที่ไม่มีอำนาจในการสอบสวนส่งผลให้ตนต้องติดคุกและครอบครัวต้องได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก โดยตนได้พยายามต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์เป็นเวลานานกว่า 3-4 ปี จนกระทั่งในที่สุดศาลได้มีคำสั่งยกฟ้องในคดีดังกล่าวและระบุว่าตนเป็นผู้บริสุทธิ์จริง แต่ภายหลังที่ศาลยกฟ้อง ประวัติและชื่อของตนเองยังติดในบัญชีและเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญาเมื่อไปสมัครงานที่ใดก็ไม่มีหน่วยงานใดรับ ส่งผลให้ไม่สามารถหาเงินมาเลี้ยงครอบครัวได้และต้องอยู่อย่างเดือดร้อนบุตรสาวต้องออกจากโรงเรียน
ทั้งนี้ นายอัจฉริยะ ได้ยืนอยู่บริเวณด้านหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มาตั้งแต่ช่วงเช้า จนเวลาประมาณ 14.00น. ที่ผ่านมา ได้อุ้มบุตรสาว ไปนั่งขวางถนนพระรามที่ 1 ให้รถชน ส่งผลให้การจราจรติดขัด และเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้าไปเจรจาและไกล่เกลี่ย จนยอมออกจากถนน แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้เดินทางกลับแต่อย่างใด
"พงศพัศ" โยนตำรวจ 1 ดูแล วิศวกรโยธา หลังอ้าง ถูกตำรวจแกล้ง
ความคืบหน้าล่าสุด กรณีวิศวกรร้องขอความเป็นธรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และได้อุ้มลูกสาววัย 3 ขวบ ขวางถนนพระราม 1 หลังขอเข้าพบ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เนื่องจากไม่ได้รับความเป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ และถูกยัดเยียดข้อหา ต้องติดคุก และต่อสู้คดี จนกระทั่งศาลยกฟ้องว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ ล่าสุด พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ลงมารับเรื่องดังกล่าวและเจรจาด้วย พร้อมกับให้ นายอัจจริยะ เรืองรัตนพงศ์ อายุ 45 ปี วิศวกรโยธาผู้เข้าร้องทุกข์ นำเอกสารและสำนวนคดีต่างๆ ไปยื่นต่อ พล.ต.ต.ปิยะ สอนตระกูล รอง.ผบช.ภ.1 ในฐานะ รรท.ผบช.ภ.1 เจ้าของพื้นที่ ซึ่งได้มีการประสานผ่านทางโทรศัพท์ไว้ให้แล้ว เพื่อดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง และให้ความเป็นธรรมต่อไป ซึ่ง นายอัจริยะ มีสีหน้าคลายความกังวลลงก่อนที่จะเดินทางไปภาค 1 โดยมีตำรวจสันติบาลได้จัดรถไปส่ง เนื่องจากอ้างว่าไม่มีเงินค่ารถ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น